เด็กวัยไหนที่สามารถใช้ หมอนเด็ก ได้

A Journey To Healing  » Lifestyle »  เด็กวัยไหนที่สามารถใช้ หมอนเด็ก ได้
0 Comments
หมอนเด็ก

เด็กวัยทารกถือได้ว่าเป็นวัยที่คอยังไม่สามารถตั้งได้ หมอนเด็ก จึงไม่ได้มีความจำเป็นมากเหมือนกับอุปกรณ์อื่น ๆ อีกทั้งอาจเกิดผลเสียให้กับทารกด้วย ทารกแรกเกิดเป็นวัยที่ร่างกายยังคงอ่อนแอและยังไม่สามารถขยับร่างกายได้มากนัก แต่หมอนจะจำเป็นก็ต่อเมื่อเด็กมีอายุที่เลยวัยทารกมาแล้ว ในบทความจะมาให้ข้อมูลว่า หมอนเด็ก เหมาะสมกับการใช้งานกับเด็กวัยใด

สาเหตุที่ไม่ควรให้ทารกใช้ หมอนเด็ก

สำหรับคนที่เป็นพ่อแม่ แน่นอนว่าจะต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูก เพื่อให้ลูกน้อยได้สบายตัวมากที่สุด ยกตัวอย่างคือ การนอนบนที่นอน ห่มผ้าหนา ๆ หรือใช้หมอนนุ่ม ๆ แต่หลายคนอาจจะไม่รู้ว่า ในวัยทารกไม่ควรที่จะให้หนุน หมอนเด็ก เหตุเพราะเด็กวัยนี้ยังไม่มีความสามารถที่จะบังคับหรือควบคุมศีรษะและคอของตนเองได้ แล้วยังทำให้เกิดอันตรายต่อการหายใจหรือปิดกั้นทางเดินหายใจทางจมูก ถ้าศีรษะจมกับหมอนนุ่ม ๆ ก็ทำให้เด็กหายใจไม่ออกได้ด้วย ซึ่งจะมีความเสี่ยงที่เด็กเสียชีวิตแบบกะทันหัน โดยเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ภาวะใหลตายในทารก ไม่เพียงเท่านั้น โรคภูมิแม้สามารถเกิดขึ้นกับทารกได้อย่างง่ายดายเนื่องจากมีภูมิคุ้มกันที่ต่ำ คำแนะนำจากกุมารแพทย์ส่วนใหญ่ก็คือการให้ลูกนอนกับผิวเรียบที่ไม่นุ่มมากเกินไป และไม่ควรใช้หมอนหรือผ้าห่มขนาดใหญ่

หมอนเด็ก สามารถใช้กับเด็กได้เมื่อใด

การใช้ หมอนเด็ก แก่ลูกน้อยนั้น จะต้องใช้ก็ต่อเมื่อคอของเด็กเริ่มแข็งแล้ว หรือก็คือเด็กสามารถควบคุมลำคอและศีรษะของตนเองได้ โดยจะต้องมีอายุตั้งแต่ 1 ปีจึงจะสามารถนำหมอนมาใช้ ข้อคำนึงในการใช้งานเพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายกับลูกน้อยนั้น สามารถกล่าวได้ดังต่อไปนี้

  • เลือกหมอนที่เหมาะกับเด็ก ไม่นุ่มหรือแบนหนามากเกินไป
  • ไม่ใช้หมอนที่มีวัสดุโพลีเอสเตอร์เป็นส่วนประกอบในการผลิต ซึ่งจะทำให้ลำคอและศีรษะร้อนเกินไป
  • หมอนที่มีผ้ากันไรฝุ่นหุ้มหรือหมอนแบบไม่เก็บฝุ่น เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคภูมิแพ้
  • ทำความสะอาดหมอนอยู่เสมอ เพื่อลดการสะสมของแบคทีเรีย
  • บางกรณีก็ไม่อาจใช้ หมอนเด็ก ในวัยนี้ได้เนื่องจากสภาวะของสุขภาพ ยกตัวอย่างคือ ติดเชื้อบริเวณหู กรดไหลย้อน

จากบทความจะทำให้ได้รู้เรื่องเกี่ยวกับความเหมาะสมในการใช้งาน หมอนเด็ก ว่าเด็กวัยไหนที่สมควรได้ใช้ เพื่อให้สามารถดูแลเด็กทารกได้อย่างถูกวิธี ป้องกันอันตรายที่จะเกิดกับเด็กได้ตลอดเวลา เมื่อมีความรู้เหล่านี้ก็จะทำให้ดูแลลูกน้อยได้ง่ายยิ่งขึ้นกว่าเดิม